โควิด-19 : สหรัฐฯ เล็งบังคับสวมหน้ากากอีกรอบ ฉีดวัคซีนกระตุ้น หลังเดลตาทำยอดผู้ติดเชื้อพุ่งสูง
นพ.แอนโธนี เฟาซี หัวหน้าที่ปรึกษาด้านการแพทย์ของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ระบุว่า ประเทศกำลัง "มุ่งหน้าไปในทิศทางผิด" ในการบริหารจัดการกับโรคระบาดครั้งนี้ หลังจากอัตราการติดเชื้อพุ่งสูงขึ้นในหมู่ผู้ที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนต้านโควิด
นพ.เฟาซี ระบุว่า เชื้อโควิดสายพันธุ์เดลตา กำลังเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้รัฐทางตอนใต้ของประเทศที่มีอัตราการฉีดวัคซีนต่ำ อาทิ ฟลอริดา, เท็กซัส และมิสซูรี มียอดผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นมากในขณะนี้
ในการให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซีเอ็นเอ็นเมื่อวันที่ 25 ก.ค. นพ.เฟาซี เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ในรัฐเหล่านี้กำลังทบทวนแนวทางเรื่องการสวมหน้ากากอนามัยสำหรับประชาชนที่ได้รับวัคซีนแล้ว เพื่อจำกัดการแพร่ระบาดของโรค นอกจากนี้ยังมีการพิจารณาเรื่องการฉีดวัคซีนกระตุ้นภูมิคุ้มกันให้แก่คนกลุ่มเสี่ยงด้วย
นพ.เฟาซี กล่าวว่า สถานการณ์ไวรัสโคโรนาในสหรัฐฯ กำลังกลายเป็น "การระบาดใหญ่ในหมู่ผู้ที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน" พร้อมชี้ว่า ผู้บริหารระดับท้องถิ่นในพื้นที่ที่มีอัตราการฉีดวัคซีนต่ำจะต้องดำเนินความพยายามมากขึ้นเพื่อส่งเสริมให้ประชาชนเข้ารับการฉีดวัคซีน
ข้อมูลของทางการสหรัฐฯ ระบุว่า ปัจจุบันมีผู้ได้รับการฉีดวัคซีนต้านโควิดครบโดสแล้ว 162.7 ล้านคน หรือ 49% ของประชากรทั้งประเทศ
สหรัฐฯ เคยเป็นผู้นำโลกในการฉีดวัคซีนต้านโควิดให้แก่ประชาชน จนกระทั่งเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา เมื่ออัตราการฉีดวัคซีนเริ่มลดลง โดยเฉพาะในรัฐทางตอนใต้ของประเทศ ซึ่งบางพื้นที่มีประชากรไม่ถึงครึ่งที่รับการฉีดวัคซีนเข็มแรก
ปัจจุบันยอดผู้ติดเชื้อรายวันกำลังเพิ่มขึ้นอีกครั้ง หลังจากมีจำนวนลดลงในเดือน พ.ค. และ มิ.ย.
ทำให้ขณะนี้สหรัฐฯ มีตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสมกว่า 34 ล้านคน และเสียชีวิตจากโควิด-19 ไปแล้วราว 610,000 คน
ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่าแนวโน้มดังกล่าวมีสาเหตุมาจากการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วของเชื้อสายพันธุ์เดลตา ที่มีความสามารถในการแพร่เชื้อสูง
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา นพ. วิเวก เมอร์ตี ผู้อำนวยการใหญ่สำนักงานสาธารณสุขสหรัฐฯ ระบุว่า 99.5% ของการเสียชีวิตจากโควิด เกิดขึ้นในหมู่ผู้ที่ยังไม่ฉีดวัคซีน
นอกจากนี้ นพ.เฟาซี ยังกล่าวว่า เขาได้ร่วมหารือในการเปลี่ยนแปลงข้อแนะนำเรื่องการสวมหน้ากากอนามัยที่ออกโดยศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค สหรัฐฯ (Centers for Disease Control and Prevention หรือ ซีดีซี) ซึ่งก่อนหน้านี้ระบุว่า ผู้ที่ได้รับวัคซีนครบถ้วนแล้ว "สามารถกลับไปดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ที่เคยทำก่อนหน้าโรคระบาดใหญ่ได้โดยไม่ต้องสวมหน้ากากอนามัย"
นพ.เฟาซี เผยว่า รัฐบาลท้องถิ่นสามารถออกกฎระเบียบต่าง ๆ ของตนเองได้ภายใต้กรอบคำแนะนำปัจจุบันของซีดีซี ซึ่งเขาระบุว่าขณะนี้มีรัฐบาลท้องถิ่นบางแห่งได้กลับมาใช้ข้อบังคับการสวมหน้ากากในอาคารและสถานที่สาธารณะเป็นที่เรียบร้อยแล้วเพื่อสกัดการติดเชื้อ
โดยในเขตนครลอสแองเจลิส มีข้อกำหนดให้ทั้งผู้ที่ฉีดวัคซีนแล้วและยังไม่ฉีดวัคซีนต้องสวมหน้ากากในอาคารที่เป็นพื้นที่สาธารณะ
แหล่งที่มาของข่าว: คลิกที่นี่
น้องจริงจ้า
ผู้ช่วยวิเคราะห์ข่าวกรองให้ทุกท่าน ข่าวไหนจริง หรือ ไม่จริง ตรวจสอบกับน้องจริงจ้าได้ที่นี่เจ้าค่ะ