อนุทิน โต้ข่าว ไฟเซอร์เสนอขายวัคซีน 13 ล้านโดส แต่รัฐบาลปฏิเสธ
“อนุทิน” โพสต์เฟซบุ๊กชี้แจงละเอียดยิบ หลัง “จาตุรนต์” แชร์คลิปข่าวระบุ ไฟเซอร์เสนอขายวัคซีน 13 ล้านโดสให้ประเทศไทย แต่รัฐบาลปฏิเสธ
วันที่ 27 เมษายน 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานกรณี นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรองนายกรัฐมนตรี แชร์คลิปข่าวที่มีการพูดถึงวัคซีนไฟเซอร์ ระบุว่าบริษัทไฟเซอร์เคยเสนอขายวัคซีนให้ประเทศไทย 13 ล้านโดส ในราคาพิเศษ ไม่ต้องใช้เงินซื้อ แต่กลับถูกรัฐบาลไทยปฏิเสธถึง 4 รอบ จนทางไฟเซอร์ไม่ติดต่อรัฐบาลไทยมาอีกเลย ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
“จาตุรนต์” ขุดข่าว ไฟเซอร์ เสนอขายวัคซีนให้ไทย แต่ถูกปฏิเสธ 4 รอบ
ล่าสุด นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข โพสต์เฟซบุ๊กตอบโต้เรื่องนี้อย่างละเอียด ดังนี้
หยุดกล่าวหาเท็จ หยุดให้ร้ายกระทรวงสาธารณสุข น่าตกใจที่มีข้อมูลว่า ไฟเซอร์เสนอขายวัคซีนให้ไทย 13 ล้านโดส แต่รัฐบาลไทย ไม่ซื้อ แม้จะมีเงื่อนไขว่า ให้วัคซีนก่อน จ่ายเงินทีหลังได้ ก็ถูกปฏิเสธ มากไปกว่านั้น ข้อเสนอนี้มาถึงประเทศไทย 4 ครั้ง ก็ยังไม่ได้รับความสนใจ
วันนี้ ผอ.สถาบันวัคซีนแห่งชาติ แถลงว่าข้อมูลทั้งหมดนี้เป็นเท็จ ผู้กล่าวหากระทรวงสาธารณสุข ใช้ข้อมูลเท็จ มาสร้างความเสียหายให้แก่กระทรวงสาธารณสุข สถาบันวัคซีนแห่งชาติ ชี้แจงดังนี้
1 : Pfizer เคยเสนอขายวัคซีนให้ไทย 13 ล้าน จริงหรือไม่
ตัวเลข 13 ล้านเป็นตัวเลขที่ไฟเซอร์ใช้ในการนำเสนอ Head Office เพื่อเตรียมการหารือกับรัฐบาล ไม่ใช่จำนวนที่เสนอขาย ทั้งนี้ ตัวเลขดังกล่าวเกิดจากการกำหนดแผนที่รัฐบาลเคยตั้งว่าจะมีการจัดซื้อวัคซีนแบบ Bi-lateral agreement คิดเป็น 10% ของจำนวนประชากร หรือประมาณ 6.7 ล้านคน (คนละ 2 โดส รวม ประมาณ 13 ล้านโดส)
2 :
ไม่ต้องใช้เงินซื้อ มีวัคซีนให้ใช้ก่อนค่อยจ่ายทีหลัง
ไม่จริง การจัดซื้อวัคซีนของไฟเซอร์ ต้องมีการวางเงินจองตามเงื่อนไขในสัญญา และไม่มีการจัดส่งวัคซีนให้ก่อนแต่อย่างไร
3: ไฟเซอร์เสนอรัฐบาลไป 4 รอบ แต่ถูกปฏิเสธ
ไม่จริง ที่ผ่านมาไฟเซอร์ได้เข้านำเสนอข้อมูลผลการวิจัยในระยะต่าง ๆ รวมถึงผลการใช้จริงในประเทศต่าง ๆ อยู่เป็นระยะ รัฐบาลไม่เคยปฏิเสธการเข้าพบผู้แทนบริษัทฯ ที่ผ่านมาคุณลักษณะของวัคซีนโควิด-19 ของไฟเซอร์ ไบโอเอนเทค อาจมีข้อจำกัดเรื่องการขนส่ง จัดเก็บ และระยะเวลาส่งมอบ
แต่ด้วยการปรับปรุงให้สามารถจัดเก็บได้สะดวกขึ้น การขยายช่วงอายุผู้สามารถรับวัคซีนได้ในกลุ่มเด็กเล็กตั้งแต่ 16 ปี และอีกไม่นานในเด็กอายุ 12 รวมถึงในอนาคต
อีกทั้งบริษัทฯ ได้มีการขยายกำลังการผลิตออกไป จึงทำให้รัฐบาลให้ความสนใจ และได้เชิญผู้แทนบริษัทไฟเซอร์ในประเทศไทยเข้าหารือ ในวันที่ 22 เม.ย. ซึ่งผมร่วมเป็นประธานในครั้งแรก และได้ดำเนินการสั่งจองพร้อมเข้าสู่การพิจารณาร่างเอกสารต่าง ๆ เพื่อให้สามารถส่งมอบวัคซีนให้ได้เร็วที่สุด
ขอความกรุณาทุกท่าน หยุดแชร์ข้อมูลเท็จ และหยุดแสวงหาประโยชน์ทางการเมืองในสถานการณ์โรคระบาด และความเดือดร้อนของประชาชน ตลอดจนสร้างความเข้าใจผิดต่อกระทรวงสาธารณสุข และความสับสนแก่ประชาชน
แหล่งที่มาของข่าว: คลิกที่นี่
น้องจริงจ้า
ผู้ช่วยวิเคราะห์ข่าวกรองให้ทุกท่าน ข่าวไหนจริง หรือ ไม่จริง ตรวจสอบกับน้องจริงจ้าได้ที่นี่เจ้าค่ะ